ตลาดต้นตาล เมืองขอนแก่น แหล่งแห่งการช้อป ชิม ชิล

ตลาดต้นตาล เมืองขอนแก่น แหล่งแห่งการช้อป ชิม ชิล

ตลาดต้นตาล(Ton Tann Green Market ) ตั้งอยู่ในตัวเมืองจังหวัดขอนแก่น ซึ่งมีสโลแกนของตลาดด้วยว่า “ตลาดต้นตาล ตลาดฝันของคนมีไอเดีย” ก็คงมา จากความตั้งใจ ของเจ้าของโครงการ ที่จะให้เป็นศูนย์รวมชิ้นงานศิลปะ, ของสะสม, สิ่งประดิษฐ์หรือของที่คนชื่นชอบคอเดียวกัน, กลุ่มเล่านิทาน, กลุ่มละคร, กลุ่มเต้นรำ, กลุ่มรถคลาสสิค, กลุ่มถ่ายภาพ, กลุ่มนักแสดงเปิดหมวก, กลุ่มบิ๊กไบค์ ฯลฯ มาโชว์มาอวดแลกเปลี่ยนผลงานแบบคนใจเดียวกัน ณ ที่นี่ ตลาดต้นตาล จังหวัดขอนแก่น

 

ภายในโครงการแบ่งออกเป็น 6 โซน

1. ตาลฟ้าราคาประหยัด : พบกับสินค้าเปิดท้ายประมาณ 400 ร้านค้าเหมาะอย่างยิ่ง สำหรับคนชอบช้อป ชม ชิม ออกไอเดีย ในบรรยากาศสวนๆน่ารื่นรมลมเย็นสบายๆ

2. ตาลแดงแสดงสินค้า : เป็นอาคาร 1 ชั้นครึ่ง(ชั้นลอยเป็นOFFICEและร้านเครื่องดื่มนั่งชิลๆริมระเบียงชมวิวตลาดต้นตาลได้ทั้งโครงการ) บริเวณภายในอาคารประกอบด้วย ร้านค้ากลุ่มแฟชั่นเสื้อผ้า เครื่องหนังต่างๆ เครื่องประดับต่างๆหลากหลายมากมายให้ได้ช้อป

3. ตาลขาวทานข้าวกัน : อาหารรถเข็นสไตล์ โต้รุ่งในบรรยากาศสวนคอนเซ็ปป์ของที่นี่จะมีความแตกต่างจากตลาดโต้รุ่งที่อื่น และเก๋ไก๋ใช่ย่อยมีที่นังพัก หรือจะหาของอร่อยๆ ทานก็มีให้เลือกชิมกันหลายอย่างในราคาที่แสนประหยัด บรรยากาศแบบไม่ซ้ำใคร ด้วยเมนูเด็ดๆจากร้านค้าที่ถูกคัดสรรค์มา โดยเฉพาะมีให้เลือกมากถึง 60 ร้านค้ากันเลยทีเดียว

4. ตาลส้มชมพระอาทิตย์ : จุดชมวิวถ่ายภาพและเวทีต้นตาลที่สามารถจุผู้ชมได้มากถึง 250 คนพร้อมแสงสีเสียงครบครัน ในบรรยากาศต้นตาล ที่เป็นเอกลักษณ์ที่มีเฉพาะตลาดต้นตาลสำหรับนักแสดง ชาวขอนแก่นหรือต่างจังหวัดไกล้เคียง มาโชว์มาเต้นมาแสดงพร้อมกับดนตรีแสดงสด ทุกเย็นทุกวัน

5. ตาลเหลืองเรื่องอาร์ทๆ : สินค้าไอเดียทำมือเก๋ๆหรืองานศิลปะในบรรยากาศสวนร่มรื่น และคุณอาจพบสินค้าชิ้นเดียวในโลกได้ที่นี่อีกด้วย

6. ตาลเขียวเที่ยวธรรมชาติ : สำหรับขายต้นไม้ อุปกรณ์การแต่งสวน แต่งบ้าน ที่มีให้เลือกมากกว่า 30 ห้อง

นอกจากนี้ยังมีพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมต่างๆด้วย เช่น

โซนเปิดหมวก ที่เป็นพื้นที่สำหรับการแสดงเปิดหมวก กระจายตามจุดต่างๆ ในโครงการปลดปล่อยไอเดีย การแสดงต่างๆของตัวเอง เช่น โฟล์คซอง เต้นบีบอยและอื่นๆอีกมากมาย

พื้นที่พักผ่อนและสนามเด็กเล่นที่ถูกออกแบบไว้สำหรับครอบครัว ทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัย

โครงการต้นตาล กรีน มาร์เก็ต (Ton Tann Green Marget) เปิดทุกวันเวลา 16.00-23.00 น. บนพื้นที่สีเขียวอันร่มรื่น ด้วยแมกไม้ที่มีมากมายกว่า 40 ไร่ สะดวกสบาย กับพื้นที่จอดรถมากว่า 1,500 คันเข้าง่าย ออกง่าย ติดถนนมิตรภาพและบ้านกอก ซอย 8,10,12

 

มาเที่ยวจังหวัดขอนแก่น ลองแวะมาที่นี่สิ รับรองมาคุ้มค่าอย่างแน่นอน

ติดตามผลงานการท่อเที่ยวต่อไปได้อีกที่ http://travel.sanook.com/

แวะมาเที่ยว อุทยานแห่งชาติภูผาม่าน จังหวัดขอนแก่น

ทำความรู้จัก อุทยานแห่งชาติภูผาม่าน จังหวัดขอนแก่น

 

เที่ยวขอนแกข่น ต้องลองมาที่อุทยานแห่งชาติภูผาม่าน จังหวัดขอนแก่น เรียกตามชื่อภูเขาเทือกหนึ่งทางตอนใต้ของอุทยานแห่งชาติที่มีหน้าผาสูงชันที่คล้ายสี่เหลี่ยมผืนผ้ามองดูแล้วเหมือนกับผ้าม่านผืนใหญ่ๆ อยู่ภายในท้องที่อำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น และอำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 350 ตารางกิโลเมตร หรือ 218,750 ไร่ นั่นเอง

อุทยานแห่งชาติภูผาม่าน แต่เดิมได้เคยเป็นพื้นที่ที่สมบูรณ์ไปด้วยพรรณไม้ และสัตว์ป่าหลากหลายชนิด ปัจจุบันมีผลจากการทำสัมปทานป่าไม้ ทำให้พื้นป่าและจำนวนสัตว์ป่านั้นลดลงอย่างรวดเร็ว กรมป่าไม้จึงได้ออกคำสั่งที่ 1473/2532 ลงวันที่ 27 กันยายน 2532 เพื่อมอบหมายให้ นายพนม พงษ์สุวรรณ นักวิชาการป่าไม้ 4 ให้สำรวจเพิ่มเติมและได้จัดตั้งพื้นที่ป่าดงลาน อำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ป่าภูเปือย อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย และพื้นที่ป่าใกล้เคียงที่เป็นอุทยานแห่งชาติ จากการสำรวจพื้นที่แล้วก็ได้พบว่า เป็นพื้นที่แหล่งต้นน้ำลำธารและมีจุดเด่นทางธรรมชาติหลายด้านหลายแห่ง โดยเฉพาะเรื่องถ้ำและน้ำตก

ทำให้ทางราชการจึงต้องประกาศกฤษฎีกากำหนดให้รวมพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติภูเปือย อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย เข้าไปกับพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติดงลานท้องที่อำเภอชุมแพ กิ่งอำเภอภูผาม่าน จังหวัดขอนแก่น ได้จัดตั้งให้เป็นอุทยานแห่งชาติภูผาม่านในปีพ.ศ.2534 โดยได้พระราชกฤษฏีกากำหนดให้บริเวณที่ดินป่าดงลานแห่งนี้ภายในท้องที่ตำบลนาหนองทุ่ม อำเภอชุมแพและตำบลห้วยม่วง ตำบลวังสวาบ ตำบลนาฝาย ตำบลภูผาม่าน กิ่งอำเภอภูผาม่าน อำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น แล้วป่าภูเปือยภายในท้องที่ตำบลภูกระดึง ตำบลศรีฐาน อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย ที่มีเนื้อที่โดยประมาณ 218,750 ไร่หรือ 350 ตารางกิโลเมตร เป็นอุทยานแห่งชาติ ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 108 ตอนที่ 215 ลงในวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ.2534 จัดให้เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 72 ของประเทศไทย

ลักษณะภูมิประเทศ

ส่วนใหญ่จะเป็นเทือกเขาหินปูนที่มีความสูงชันสลับซับซ้อนกันไปเป็นแนวยาว สลับกับที่ราบลุ่มเชิงเขา สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 200-800 เมตร เป็นแหล่งต้นน้ำของห้วยภูฮี ห้วยชมพู ห้วยคะเฮ้า  ห้วยซำแคน ห้วยตากว้าง ห้วยข้าวหลาม ห้วยจอก ห้วยยาง ห้วยสงขะยวน และห้วยหม้อแตก ซึ่งลำห้วยเหล่านี้นั้นได้ไหลลงสู่ลำน้ำพองที่ไหลมาจากอุทยานแห่งชาติภูกระดึง และลำน้ำเชิญภายในจังหวัดขอนแก่น สภาพดินนั้นเป็นดินร่วนปนกับดินทรายและดินลูกรังอยู่ปะปนอยู่กับหินชนิดต่างๆ

สภาพป่าประกอบไปด้วยป่าดิบเขา ป่าเบญจพรรณ ป่าดิบแล้ง และป่าเต็งรัง พรรณไม้สำคัญ ได้แก่ ประดู่ มะค่าโมง ตะแบก แดง เต็ง เหียง พลวง รัง พรรณไม้พื้นล่างที่ขึ้นอยู่กันอย่างหนาแน่น ได้แก่ หว่านไพร เพ็ก หวาย กล้วยไม้ป่า ชัน ข่าป่า หญ้าคา แฝก ฯลฯ

สัตว์ป่าที่สามารถพบได้ภายในอุทยานชาติภูผาม่าน จังหวัดขอนแก่นพบ ได้แก่ เลียงผา  ลิง กระต่ายป่า นิ่มหรือลิ่น เม่น หมูป่า เก้ง ตะกวด ไก่ป่า นกชนิดต่างๆ และแมลงมากกว่า 200 ชนิด

 

เรียนรู็ติดตามข่าวสารการท่องเที่ยวอื่นๆได้อีกที่ http://travel.sanook.com/

เที่ยวขอนแก่น ที่ อุทยานแห่งชาติภูเก้า-ภูพานคำ

เที่ยวขอนแก่น ที่ อุทยานแห่งชาติภูเก้า-ภูพานคำ 

 

อุทยานแห่งชาติภูเก้า-ภูพานคำ ตั้งอยู่ภายในในท้องที่ของจังหวัดหนองบัวลำภู พื้นที่ตอนล่างของจังหวัดอุดรธานี และพื้นที่ตอนบนของจังหวัดขอนแก่นนั่เอง

อุทยานแห่งชาติภูเก้า-ภูพานคำ นั้นมีที่ทำการอุทยานฯอยู่ที่ริมทะเลสาบเหนือเขื่อนอุบลรัตน์ เชิงเขาภูพานคำ เขตอำเภอโนนสัง ที่เป็นพื้นที่ภายในบริเวณที่ราบสูงภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ตั้งอยู่ภายในบริเวณตอนล่างของจังหวัดอุดรธานี และบริเวณตอนบนของจังหวัดขอนแก่น สภาพธรณีแห่งนี้เป็นภูเขาหินทรายซึ่งมีชั้นของของหินทรายอยู่ด้านบนในระดับผิวดิน โดยมีชั้นของหินดินดานหรือหินดินดานปนทรายเป็นฐานจากด้านล่าง มีดินประเภทดินลูกรัง และดินร่วนปนทราย กระจัดกระจายอยู่ทั่วไป และประกอบไปด้วยพันธุ์ไม้ สัตว์ป่า ทิวทัศน์ที่สวยงามตามธรรมชาติและสภาพป่าโดยทั่วไปเป็นป่าเต็งรัง ที่มีเนื้อที่ประมาณ 322 ตารางกิโลเมตร หรือ 201,250 ไร่ เลยทีเดียว

มีจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจคือ ภูพานคำและภูเก้า

ภูพานคำ นั้นเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาภูพานตอนบน มีทัศนียภาพที่สวยงามของทะเลสาบเหนือเขื่อนอุบลรัตน์เรียงตัวตามแนวทิศตะวันออกเฉียงเหนือ-ตะวันตกเฉียงใต้ ในบริเวณทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเทือกเขานั้นเป็นแอ่งที่ราบต่ำลุ่มน้ำพอง ซึ่งเป็นหุบเขาที่มีขนาดใหญ่ เมื่อมีการสร้างเขื่อนอุบลรัตน์ขึ้น พื้นที่ดังกล่าวนี้ได้กลายเป็นทะเลสาบ ซึ่งเป็นพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติ มีเนื้อที่ประมาณครึ่งหนึ่งของส่วนภูพานคำ สภาพป่านั้นเป็นป่าเต็งรังและป่าเบญจพรรณซึ่งขึ้นอยู่ในพื้นดินปนหิน นักท่องเที่ยวมักจะพักแรมกันโดยกางเต็นท์หรือที่บ้านพักของอุทยานฯหรือที่ศาลาพักแรมของกรมประชาสงเคราะห์ที่บริเวณทะเลสาบท้ายเขื่อนอุบลรัตน์ ภูพานคำแห่งนี้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาและเป็นแหล่งตกปลาที่มีชื่อเสียงของจังหวัดขอนแก่นอีกด้วย

ภูเก้า ประกอบด้วยภูเขาทั้งหมด 9 ลูก คือ ภูฝาง ภูเมย ภูค้อหม้อ ภูขุมปูน ภูหัน ภูชั้น ภูเพราะ ภูลวก และภูวัด ภูเขาทั้ง 9 ลูกนี้มีความสลับซับซ้อนกันมาก มีสัณฐานว่าคล้ายกะทะหงายโดยมีที่ราบอยู่ตอนกลาง พื้นที่เช่นนี้มันทำให้สันนิษฐานได้อีกว่า พื้นที่ส่วนนี้น่าจะเป็นซากของภูเขาไฟโบราณที่ดับสนิทไปแล้วเมื่อหลายร้อยล้านปีก่อน หรือมิฉะนั้นก็เป็นการโก่งตัวของเปลือกโลกภายในบริเวณนี้ขึ้นมาเป็นขอบเทือกเขา เทือกเขาภูเก้านั้นเป็นเทือกเขาสองชั้น ชั้นนอกเป็นภูเขาสูง และมีความลาดชันมาก ไหล่เขาด้านในนั้นมีความลาดชันไม่มากนัก พื้นที่ส่วนใหญ่ก็มีลักษณะสูงๆต่ำๆบางแห่งเป็นที่ราบประกอบด้วยป่าไม้ สัตว์ป่านานาชนิด ลานหินลาด ถ้ำ น้ำตก และหินลักษณะแปลกๆ คล้ายปราสาทถ้ำพลาไฮ ภายในมีภาพเขียนรูปฝ่ามือ ภาพแกะสลักของมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ และศาลาบนยอดหินที่เรียกว่า หอสวรรค์ ท่านสามารถเข้าไปชมวิวได้

นอกจากนี้บริเวณภูเก้า ยังมีวัดพระพุทธบาทภูเก้าซึ่งปรากฏรอยเท้าคนและสุนัขขนาดใหญ่สลักบนหินขึ้น อันเกี่ยวโยงกับนิทานพื้นบ้านเรื่อง พระสุพรหมวิโมขากับหมาเก้าหาง และตามผนังถ้ำบริเวณวัดนั้นยังมีภาพเขียนสี ภาพสลักในสมัยก่อนประวัติศาสตร์อีกด้วย

อัตราค่าเข้าชม 
คนไทยผู้ใหญ่ 20 บาท / เด็ก 10 บาท
ชาวต่างชาติผู้ใหญ่ 100 บาท / เด็ก 50 บาท

อัตราค่าบริการ 
นักท่องเที่ยวชาวไทยลด 50 เปอร์เซ็นต์ วันจันทร์-วันศุกร์ ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์
ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม-31 ธันวาคม 2558 ผู้ใหญ่ราคา 10 บาท เด็กราคา 5 บาท

ติดตามสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ เพิ่มเติมที่ http://travel.sanook.com/

ท่องเที่ยว ช๊อป กิน ชิล ถนนคนเดิน ขอนแก่น

ท่องเที่ยว ช๊อป กิน ชิล ถนนคนเดิน ขอนแก่น

ถ้าพูดถึง “ถนนคนเดิน” เชื่อว่าหลายๆคนคงคิดถึงที่จังหวัดเชียงใหม่อย่างแน่นอน เพราะที่นั้นเป็นที่แรกที่ได้มีการจัดถนนคนเดินขึ้น และต่อมาก็มีอีกหลายๆจังหวัดได้จัดขึ้นมาอีกตามๆกันไป เอกลักษณ์ของถนนคนเดิมในแต่ละจังหวัดก็จะมีความแตกต่างกันในรูปแบบต่างๆ แต่สิ่งหนึ่งที่จะเหมือนกันนั้นก็คือบรรยากาศของร้านค้าที่วางขายข้างถนนที่แบไปกับพื้น ที่สำคัญสินค้าต่างๆก็เป็นสินค้าของท้องถิ่นในแต่ละจังหวัด และสินค้าทำมือที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่ ดังนั้นไม่รอช้า วันนี้ขอเสนอ ถนนคนเดิน จังหวัดขอนแก่น ตลาดนัดท้องถิ่น จะมีอะไรเป็นอย่างไรนั้นมาดูกันเลย

ในทุกเย็นของวันเสาร์บริเวณถนนหน้าศูนย์ราชการ ด้านหลังสวนรัชฎาณุสรณ์
เป็นอีกหนึ่งแห่งที่ชาวคนขอนแก่นรู้จักดีในชื่อ “ถนนคนเดิน จังหวัดขอนแก่น” ซึ่งที่แห่งนี้เป็นแหล่งรวมสินค้ามากมายมาวางขายกลางถนนให้ผู้คนได้มาเลือกซื้อสิ้นค้าอย่างคับคั่ง ตลอดความยาวของถนนยาวกว่า 300 เมตร ซึ่งคนในขอนแก่นรู้จักสถานที่นี้เป็นอย่างดี แต่นักท่องเที่ยวอีกหลายคนอาจจะยังไม่ไม่เคยมาสัมผัสบรรยากาศของถนนคนเดินแห่งนี้

บรรยากาศที่แสนสบายในช่วงเย็นๆ ทำให้ผู้คนในจังหวัดขอนแก่นเลือกที่จะมาพักผ่อนเลือกซื้อสินค้าที่ถนนคนเดิน พร้อมกับสินค้าน่าสนใจต่างๆที่มีให้เลือกสรรอีกมากมายไม่ว่าจะเป็นสินค้าทำมือ งานหัตถกรรม สินค้าทางการเกษตร สินค้าส่งจากโรงงาน สัตว์เลี้ยง งานศิลปะ และอื่นๆอีกมากมายที่นี่

อีกสิ่งสุดยอดความนิยมที่เป็นไฮไลท์ของถนนคนเดินแห่งนี้ก็คือร้านค้า ร้านอาหารเป็นร้อยๆร้าน ที่มีให้เลือกชิมเลือกทานกันไม่หวาดไม่ไหว มีทั้งของคาว ของหวาน อาหารสด เครื่องดื่ม ที่พ่อค้าแม่นำมาเสนอให้เลือกซื้อแถมคนที่มาซื้ออาหารที่นี่เป็นประจำยังแอบคุยกันมาเป้นทอดๆอีกว่า อาหารที่นี่อร่อยมาก แซบมาก สะอาดแถมยังราคาถูกอีกด้วย แค่นี้ก็ทำเอากระเพาะสั่นไปหมดแล้ว ^^

พออิ่มกับอาหารที่แสนอร่อย กลับมาเดินย่อยอาหารฟังคนตรีที่จะมีผู้คนมาเปิดแสดงให้ชมกันหลายเวทีมากมายให้เลือกชม ไม่ว่าจะเป็นการแสดง ดนตรีไทย ดนตรีสากล การขับร้อง และความบันเทิงอื่นๆอีกมากมาย

ใครที่อยากมาหรือสนใจที่จะมาถนนคนเดิน จังหวัดขอนแก่น แห่งนี้ รับรองไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน ส่วนเวลาเปิดนั้นจะเปิดทุกเย็นวันเสาร์ เวลา 17.00 น. - 24.00 น. ชวนเพื่อนๆมากันเยอะๆนะ เที่ยวชม ชิม ช๊อป กิน คุ้มค่าอย่างแน่นอน

ติดตามอัพเดทการท่องเที่ยวใหม่ๆที่ http://travel.sanook.com/

ท่องเที่ยวชิลๆสบายๆ ไปกับ หาดบางแสน2 ขอนแก่น

ท่องเที่ยวชิลๆสบายๆ ไปกับ หาดบางแสน2 ขอนแก่น

หาดบางแสน 2 จ.ขอนแก่นแห่งนี้ย้อนกลับไปเมื่อซัก10กว่าปีที่แล้วถือว่าขึ้นชื่อและมีชื่อเสียงอย่างมาก นักท่องเที่ยวจากทุกสารทิศแห่กันมาเที่ยวไม่หวาดไม่หวั่นไม่ขาดสาย โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่รถติดกันยาวเป็น3-4กิโลเมตรเลยทีเดียว

เสน่ห์ที่ทำให้หาดบางแสน 2 จ.ขอนแก่นกลายเป็นจุดสนใจเป็นเพราะมันเป็นชายหาดริมทะเลสาบน้ำจืดอยู่เหนือเขื่อนอุบลรัตน์ ที่มีทั้งวิวสวยๆให้ชมพร้อมกับอากาศอันเย็นสบายในระดับหายห่วงเรื่องความร้อนและความอบอ้าวเลยทีเดียว อีกทั้งที่นี้ยังเป็นแหล่งรวบรวมกิจกรรมทางน้ำต่างๆมากมายมีเหมือนทะเลแถวภาคใต้เลย ไม่ว่าจะเป็นบริการให้เช่าจักรยานน้ำ, ห่วงยาง , บานาน่าโบ๊ตและการล่องแพชมวิวในเขื่อน หรือยากจะค้างคืนนอนที่นี่นั้นก็มีโฮมสเตย์และรีสอร์ทให้เลือกพักเยอะแยะมากมายหลายราคาให้เลือกกันเลย

ถ้าเป็นสมัยเมื่อก่อนที่เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ บริเวณหาดจะมีที่ว่างพอให้เดินลงไปเล่นน้ำกันเยอะมากแต่พอนานไปหลายๆปี ร้านอาหารประเภทเรือนแพก็ผุกขึ้นมาราวกับดอกเห็ดในหน้าฝน เยอะมากเลบทีเดียว แถวบริเวณเล่นน้ำพวกนั้นเลยถูกกลืนหายไปด้วยเรือนแพ จึงได้เปลี่ยนที่เล่นน้ำใหม่ เป็นที่ใกล้ๆแถววซุ้มอาหารของแต่ล่ะร้านแทนเอา เข้าทำนองประเภทว่านั่งทานอาหารดีๆถ้าใครร้อนๆอยากลงเล่นน้ำก็สามารถกระโดดตู้มลงไปได้เลยทันที ไม่มีการรีรออะไรทั้งสิ้น

ซึ่งปัจจุบันอย่างที่กล่าวไป แถวนั้นเลยมีแต่ร้านอาหารกันเต็มหาดไปหมด ถ้าอยากจะเล่นกิจกรรมทางน้ำอย่างเช่นบานานาโบ๊ต ก็คงต้องเดินไปยังท่าเรือของมันอีกทีนึง หรือจะบางเจ้าที่จะขี่เจ็ทสกีมาแนะนำกันถึงที่ร้านอาหารเลยก็มีนะสะดวกไม่อีกอย่าง ข้อแนะนำประการสำคัญในการมาเที่ยวที่นี่ก็คือ ควรมากันในช่วงหน้าร้อนจะเข้าท่าที่สุด หรือถ้าจะมากันในช่วงอื่นๆก็ดีไปอีกแบบตรงที่คนไม่เยอะ เวลาไปนั่งทานอาหารตรงเรือนแพมันจะเย็นสบายใจไม่วุ่นวายสำหรับคนต้องการความสงบ

อีกอย่างที่ต้องดูให้ดีก็คือร้านอาหารริมหาดที่มีให้เลือกกันหลากหลายร้านกันเลย ที่ต้องดูให้ดีก็เพราะราคาส่วนใหญ่จะค่อนข้างจะแพง แต่ถ้าแพงแล้วมันอร่อยสมกับเงินที่ดราจ่ายไปก้ไม่เป็นไร ไม่มีใครที่ไหนว่าอยู่แล้ว แต่ถ้าให้ดีก็ควรจะอยู่ในราคาที่เหมาะสมมากกว่านี้ จากการแนะนำของคนที่นี้เขาจะแนะนำกันว่าร้านไพรวรรณมีที่ราคาถูกและอร่อยกว่าชาวบ้านร้านอื่นๆ ส่วนที่เหลือจะมีมาตรฐานไม่หนีกันมากเท่าไหร่ครับ(เป็นแค่การสอบถามจากคนท้องที่นะครับ)

หาดบางแสน2 ตั้งอยู่ที่บ้านหินเพิง ตำบลท่าเรือ จังหวัดขอนแก่น อยู่ห่างจากอำเภอเมืองขอนแก่นไปโดยประมาณ 53 กิโลเมตร หากใครอยากหาที่แวะไปพักผ่อนหย่อนใจกันอย่างสงบๆ ก็ลองไปสัมผัสกันได้ในทุกฤดูแล้วคุณจะรู้ว่าความเย็นสบายใจมันเป็นแบบนี้นี่เองจริงๆ

ติดตามบทความท่องเที่ยวได้อีก http://travel.sanook.com/

แวะมาที่เขื่อนอุบลรัตน์ แหล่งท่องเที่ยวขอนแก่น

แวะมาที่เขื่อนอุบลรัตน์ แหล่งท่องเที่ยวขอนแก่น

เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น หรือเรียกอีกชื่อนึงว่า "เขื่อนพองหนีบ" เนื่องจากการสร้างเขื่อนข้ามแม่น้ำพองโดยปิดกั้นลำน้ำพองตรงบริเวณช่องเขาที่เป็นัมนเป็นแนวต่อระหว่างเทือกเขาภูเก้าและภูพานคำ การก่อสร้างนั้นเริ่มต้นไว้เมื่อปลายปี พ.ศ. 2506 แล้วเสร็จตอนปลายปี พ.ศ. 2508 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วยกับสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าอุบลรัตน์ราชกัญญาฯ ได้เสด็จไปทรงทำพิธีเปิดเขื่อนเมื่อในวันที่ 14 มีนาคม 2509 ซึ่งเป็นเขื่อนเอนกประสงค์ที่กว้างใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน เป็นเขื่อนที่มีประโยชน์ในด้านต่างๆ มากมายทั้งเรื่องการ ผลิตกระแสไฟฟ้าใช้ การเกษตร การประมง และการป้องกันอุทกภัยต่างที่จะเกิดขึ้นในอนาคตไม่ว่าจะมีหรือไม่มี เขื่อนนี้ก็จะช่วยรับรองความปลอดภัยได้ในระดับหนึ่งในจ.ขอนแก่นเลยทีเดียว

ส่วนการคมนาคมตลอดไปจนถึงเป็นที่ไว้สำหรับพักผ่อนหย่อนใภายในบริเวณได้มีบริการร้านอาหารมากมายหลายประเภท ตั้งแต่อาหารตามสั่งไปจนถึงส้มตำหรือร้านอาหารใหญ่โต แต่อาหารจานเด็ดของที่นี่นั้นก็คือปลานิลซึ่งหาจับได้ภายในเขื่อนนี้นั่นเอง นำไปประกอบอาหารได้สารพัดประเภท ยกตัวอย่างเช่น ปลานิลชุบเกลือย่างหรือจะเป็นต้มยำปลานิล ถ้าได้นั่งปูเสื่อรับประทานแล้วจะสัมผัสได้ถึงความสบายที่เข้ากับบรรยากาศอย่างยิ่ง

อ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนอุบลรัตน์มีพื้นที่ถึงกว้างๆ 256,000 ไร่ เป็นแหล่งผลิตปลาและพันธ์สัตว์น้ำจืดสำคัญแหล่งใหญ่ของภาคอีสานแห่งหนึ่ง ช่วงสายของทุกวันที่นี่จะได้ยินเสียงจอแจดังมากด้วยรถบรรทุกขนาดเล็กจากจังหวัดขอนแก่นและจังหวัดใกล้เคียงที่จอดรอคัดปลาอยู่ที่บริเวณท่าปลา และที่นั่นมีกิจการโรงน้ำแข็งท้องถิ่นมีไว้สำหรับแช่ปลาสดกลับไปจังหวัดตน นอกจากนั้นยังมีทีเด็ดอย่างปลาร้า ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะทำจากปลาขาวแล้วนำมาบรรจุไหมาวางเรียงราย ขายกันอยู่เต็มพื้นที่เลยทีเดียว

ที่เขื่อนนั้นมีบ้านพักบริการ และมีเรือให้เช่าชมทิวทัศน์โดยคิดค่าบริการราคาลำละ 600 บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ที่ทำการเขื่อนอุบลรัตน์ โทรศัพท์. (043) 446231

ส่วนด้านการเดินทางไปชมเขื่อนสามารถไปได้ตามทางหลวงหมายเลข 2 (ขอนแก่น-อุดรธานี) ห่างจากจังหวัดขอนแก่น 26 กม. ถึงหลักกม.ที่ 470-471 จะมีทางแยกซ้ายมือเข้าสู่เขื่อนอุบลรัตน์อีก 24 กม. รวมระยะทางที่ห่างจากตัวเมือง 50 กม.

เที่ยวกันอีกได้นะมาที่นี่เลย  http://travel.sanook.com/

ท่องเที่ยวชมวัดพระพุทธบาทภูพานคำ แห่ง จ.ขอนแก่น

ท่องเที่ยวชมวัดพระพุทธบาทภูพานคำ แห่ง จ.ขอนแก่น

วัดพระพุทธบาทภูพานคำ นี้ตั้งอยู่บริเวณไหล่เขาภูพานคำ อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ก่อนถึงทางเข้าของเขื่อนอุบลรัตน์เล็กน้อย นั้นเป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลองในมณฑป และเป็นที่โดดเด่นด้วยพระพุทธรูปสีขาวขนาดใหญ่ หรือ หลวงพ่อใหญ่ นั้นที่ประดิษฐานอยู่บริเวณเชิงเขาไว้อย่างสง่างาม โดยมีความสูงถึง 14 เมตร และมีบันไดทางขึ้นมาจากลานวัดไปยังยอดเขาจำนวนมากถึง 1,049 ขั้น หรือจะขับรถยนต์ขึ้นไปถึงยอดเขาเลยก็ได้ และที่ยอมเขาเราสามารถมองเห็นทัศนียภาพทะเลสาบเขื่อนอุบลรัตน์ได้สวยงาม เป็นที่น่าประทับใจของคนที่ได้ไปชมอย่างแน่นอน

ติดตามวัดอื่นๆอีกมากมายที่นี่ http://travel.sanook.com/